ในยุคที่ธุรกิจโลจิสติกส์ต้องเผชิญกับความซับซ้อนของห่วงโซ่อุปทานและการแข่งขันที่ดุเดือด โดยมีรายงานจาก McKinsey ระบุว่า ความล่าช้าในกระบวนการโลจิสติกส์สามารถเพิ่มต้นทุนได้มากถึง 15% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด และธุรกิจที่ไม่มีระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ดีมีแนวโน้มจะเกิดปัญหา Stock-out หรือ Overstock มากขึ้น
การใช้เทคโนโลยี AI โดยเฉพาะ ChatGPT เข้ามาเป็นผู้ช่วยด้านการวิเคราะห์ การวางแผน และการตัดสินใจ กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ทั้งยังช่วยเสริมสร้างการทำงานร่วมกันระหว่างแผนกต่าง ๆ ภายในองค์กรได้อย่างราบรื่น โดย ChatGPT สามารถทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยดิจิทัลที่ช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อนและเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์และตัดสินใจในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทาน


ทำไม ChatGPT จึงเหมาะกับภารกิจ Supply Chain
วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทั้งจากข้อมูลเชิงโครงสร้าง (structured) และไม่เป็นโครงสร้าง (unstructured)
ตอบคำถามแบบ real-time ช่วยตัดสินใจได้ทันทีในภาวะวิกฤต เช่น ความล่าช้าในการจัดส่ง หรือปัญหาการผลิต
เชื่อมต่อกับระบบ ERP, TMS, WMS ผ่าน API เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลแบบ end-to-end ครอบคลุมทั้งต้นน้ำถึงปลายน้ำ
ใช้ prompt เพื่อสร้างระบบวิเคราะห์อัตโนมัติ เช่น ประเมินจุดอ่อนของคลังสินค้า หรือคาดการณ์อุปสงค์ล่วงหน้า โดยตัวอย่าง prompt ที่ใช้ได้จริง ได้แก่: "จากข้อมูลการขาย 12 เดือนที่ผ่านมา โปรดคาดการณ์ความต้องการสินค้า SKU123 ในเดือนถัดไป พร้อมแสดงระดับความมั่นใจและปัจจัยที่มีผลต่อแนวโน้ม"
สนับสนุนการสื่อสารภายในองค์กร โดยสามารถสรุปข้อมูลและรายงานให้เข้าใจง่าย ช่วยให้ทีมงานทุกระดับมีข้อมูลที่ตรงกัน


วิธีใช้งาน ChatGPT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ Supply Chain
1. เตรียมข้อมูล (Data Preparation)
รวบรวมข้อมูลสำคัญ เช่น รายการสินค้า, Lead Time, Forecast Demand, จุดกระจายสินค้า เพื่อนำเข้าสู่ระบบวิเคราะห์ โดยควรจัดระเบียบข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่อ่านง่าย เช่น Excel หรือเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลโดยตรง เพื่อให้ ChatGPT สามารถประมวลผลได้รวดเร็วและแม่นยำ
2. ตั้งคำถาม (Prompt Design)
เขียน prompt ให้ชัดเจนและมีบริบทเพียงพอ เพื่อให้ ChatGPT เข้าใจปัญหาและให้คำตอบที่แม่นยำ เช่น:
ใช้ภาษากระชับ ชัดเจน และหลีกเลี่ยงความกำกวม
ระบุขอบเขตของข้อมูล เช่น ระยะเวลา พื้นที่ หรือประเภทสินค้า
ใส่วัตถุประสงค์ของคำถามอย่างชัดเจน เช่น ต้องการให้คำนวณ, วิเคราะห์ หรือเสนอแนวทาง
ตัวอย่าง prompt:
"คำนวณ reorder point ที่เหมาะสมสำหรับสินค้า A ในช่วงไตรมาสหน้า โดยอิงจากยอดขายเฉลี่ย 6 เดือนล่าสุด"
"ประเมินประสิทธิภาพการจัดส่งใน 5 ศูนย์กระจายสินค้า และเสนอแนวทางลดเวลาเฉลี่ยในการจัดส่ง"
"วิเคราะห์ความเสี่ยงของ supply disruption จากผู้ผลิตในประเทศ A และเสนอแผนสำรองที่เหมาะสม"
3. เชื่อมต่อ API (Integration)
ใช้ API ของ ChatGPT เชื่อมกับระบบภายใน เช่น ERP หรือ TMS เพื่อดึงข้อมูลสดเข้าวิเคราะห์ การเชื่อมต่อแบบ real-time ช่วยให้สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที เช่น ความล่าช้าในเส้นทางการขนส่ง หรือการเปลี่ยนแปลงคำสั่งซื้อจากลูกค้า
4. วิเคราะห์ผลลัพธ์ (Interpret & Take Action)
นำผลลัพธ์จาก ChatGPT ไปใช้ในการตัดสินใจ เช่น ปรับเส้นทางขนส่ง เปลี่ยนแผนจัดเก็บสินค้า หรือปรับระดับการสั่งซื้อ เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของตลาดและสภาพคลังสินค้าจริง โดยสามารถใช้ร่วมกับ dashboard เพื่อสรุปผลให้ผู้บริหารเข้าใจได้ง่าย
5. ปรับปรุงต่อเนื่อง (Feedback Loop)
อัปเดตข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ สร้างระบบเรียนรู้ที่พัฒนาได้เองตามสภาพตลาด ChatGPT สามารถเรียนรู้จากข้อมูลย้อนหลังและคำตอบก่อนหน้า เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของคำแนะนำในอนาคต ทั้งยังช่วยระบุแนวโน้มที่เกิดขึ้นและแจ้งเตือนล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ


ผลลัพธ์ที่คุณคาดหวังได้
ลดต้นทุนคลังสินค้าและโลจิสติกส์โดยรวม — ผลกระทบโดยตรงต่อกำไรสุทธิของธุรกิจ
เพิ่มความแม่นยำในการวางแผนและพยากรณ์ความต้องการ — ลดความเสี่ยงจาก stock-out หรือ overstock
ลด Lead Time และเวลาในการตัดสินใจ — ปรับตัวได้ไวในสถานการณ์เร่งด่วน
สร้างรายงานแบบอัตโนมัติ — ช่วยให้ผู้บริหารติดตามภาพรวมได้แบบ real-time และช่วยลดภาระของทีมงาน
ส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างแผนก — ลดความคลาดเคลื่อนทางข้อมูล เพิ่มความเข้าใจร่วมในองค์กร
สรุป
ChatGPT ไม่ใช่แค่ AI สนทนา แต่เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลและสนับสนุนการตัดสินใจที่ทรงพลังที่สุดในยุคดิจิทัล ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่แบบเรียลไทม์ การสร้างข้อเสนอเชิงกลยุทธ์ที่แม่นยำ และการให้คำแนะนำในสถานการณ์ที่ซับซ้อน ChatGPT ช่วยให้ธุรกิจโลจิสติกส์สามารถปรับตัวได้รวดเร็ว ตอบสนองต่อตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้การประสานงานระหว่างทีมดำเนินไปอย่างไร้รอยต่อ นอกจากนี้ยังช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อน เพิ่มความโปร่งใสในการตัดสินใจ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาว
Table of Contents


คุณยศธร วงษ์เสรี - ทอท
CEO & Co-Founder the company of interest limited